Camera, Recorder, Microphone Test

Camera :
Recorder :
Microphone :

แชร์ประสบการณ์สอบตรงรอบ GAT-PAT คณะ IT มจธ.

เริ่มแรกก็ขอสวัสดีทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้ และอาจจะเป็นกำลังใจให้ใครหลายๆ คนที่มีความฝันแบบเรา :)

เริ่มแรก ต้องมีคะแนน GAT-PAT ดีๆ ก่อน ! คะแนนที่เอาไปยื่น :
GPAX 2.98
GAT Connect 150 (ขอบคุณพี่เต๋อฮะ ไม่ได้โฆษณานะ 555+) / Eng 80
PAT1 74
PAT2 87

หน้านี้ในพอร์ตอาจเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จก็เป็นได้ ...

ไม่ได้ดูดีสักเท่าไหร่ และก็คงไม่ได้น่าเกลียด ถ้าจำไม่ผิดวันนั้นสมัครไปวันก่อนวันสุดท้ายวันนึง เลขที่สมัครก็เลยอยู่ท้ายๆ เลย พอวันประกาศผลว่าได้สอบสัมภาษณ์ สุดท้ายก็ติด! เอาล่ะ ขั้นแรกมาแล้ว หลังจากนั้นก็จะมีค่าสอบสัมภาษณ์นิดหน่อย (เรื่องตัวเลขจำได้หมด แต่ไม่เคยเห็นมีใครเปิดเผยเลย อยากรู้หลังไมค์ละกันนะ) ฟรื๊บๆๆๆๆ มาตอนสอบสัมภาษณ์เลยละกัน โยนพอร์ตไป!

Ask.fm โซเชียลมาใหม่ (ก็ไม่ได้ใหม่) ที่กำลังฮิตสุดๆ ในตอนนี้!!!

ช่วงสัปดาห์นี้ หลายๆ คนที่เล่นทั้ง facebook หรือจะเป็น twitter ก็จะเห็นลิงค์ที่เพื่อนๆ ตอบคำถามจากโซเชียลๆ หนึ่งที่มีชื่อว่า "Ask.fm" ส่วนตัวเคยเห็นชาวต่างชาติเล่นกันเยอะมาก มานานแล้ว ก็งงนะว่าทำไมเพิ่งมาฮิตถึงไทยในตอนนี้ เสน่ห์ของมันก็คือ "การถามคำถามโดยที่ไม่รู้ว่าผู้ถามคือใคร" คนตอบก็คงจะอยากรู้มากว่าคนที่ถามมาคือใคร แต่คนถามก็จะมีอารมณ์ประมาณว่าสนุก หรือบางคนอาจใช้แกล้งเพื่อนผ่าน Ask.fm นี่ล่ะ

สิ่งที่หลายคนอาจอัดอั้นมานาน สำหรับความเกรียน ที่ปล่อยออกมากับคำตอบ เปรียบเสมือนตัวเองเป็น Simsimi เลยล่ะ รวมๆ ก็ไม่ได้มีอะไรมาก และ ไม่ได้เล่นยากอะไรมากมาย เพียงถามคำถามเท่านั้น ตอนนี้สิ่งที่เคืองที่สุดคือดูไม่ได้ว่ามีใครฟอลมาบ้างนี่ล่ะ 555+ ต้องมาดูกันว่า โซเชียลนี้จะฮิตสุดๆ และได้นานขนาดไหน เพราะฟีเจอร์แบบนี้อาจเป็นสิ่งที่หลายๆ คนต้องการก็ได้

ใครที่ยังไม่เคยลองเล่นก็ลองเล่นกันดู อาจจะถูกใจก็ได้นะ :)

Web : Ask.fm
Mobile App : Google Play / App Store

The worst Taxi's driver in my life.

ขอทำจิตใจให้เย็นลงอีกนิดนึง...

"The worst Taxi's driver in my life" คงไม่ต้องแปลนะครับนะ ว่าหมายถึงอะไร อันนี้คือกลับบ้านมาเปิดคอม ก็รีบนั่งพิมพ์ลงบล็อกเลย เรื่องมีอยู่ว่า... นั่งแท็กซี่กับเพื่อนจากโรงเรียนมาบ้าน บ้านอยู่ใกล้กัน และประหยัดเวลาและเงินกว่ารถเมล์เยอะ ตอนแรกพอเรียกแท็กซี่ บอกว่าไป จรัญฯ13 (บ้านอยู่ลึกเข้าไปอีก) คือเรียกมาเป็นร้อยเป็นพันคันไม่เคยมีปัญหาแบบนี้ ตอนแรกก็คิดจะใส่หูฟังฟังเพลงอยู่หรอกนะ แต่ฤกษ์ดียามดี แอปเล่นเพลงไม่รู้เป็นอะไร เพลงเปิดไม่ได้ เลยได้ฟังเหตุการณ์ทั้งหมดกับหูตัวเอง ขอแบ่งเป็นข้อๆ แต่ละกรณีละกัน

ก็อปมาจากวิกิคอมมอนส์

1.พอขึ้นไป เพื่อนเอิร์ธก็คุยกัน และกรณีแรกคือ ป้าแกบอกว่า "ห้ามพูดคุยหรือเสียดังกันบนรถ" อ้าว เงิบสิ บนรถแท็กซี่มีกฎแบบนี้ด้วยหรือ??

2.ระหว่างถนนอิสรภาพกับถนนจรัญสนิทวงศ์มีซอยลัดมากมายที่จะไปได้ แต่กลับปฏิเสธ ไม่ยอมเข้าซอยลัดด้วยเหตุผลที่ว่า "ซอยเล็ก แคบ กลัวรถจะพัง สีจะถลอก" และอยากที่จะไปถนนใหญ่ ซึ่งมันจะอ้อมร่วมๆ 5 กม. แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเข้าซอย (ผ่านมา 2 ซอยแรก ไม่ยอมเข้า คงอยากให้อ้อมมากที่สุด)

3.เมื่อออกมาถึงถนนจรัญสนิทวงศ์แล้ว ป้าแท็กซี่ก็ถามว่า "จรัญฯ 13 เนี่ย อยู่ช่วงไหน" เพื่อนก็ตอบไปว่า "ตรงแถวๆ ที่ตัดกับราชพฤกษ์" ป้าแกสะดุ้งเฮือก และออกแนวบ่นและด่าว่า "ทีหลังไม่ต้องบอกเลยนะ จรัญฯ13 ก็บอกว่าบางแวกสิ มันลึกเข้าไป" คือจริงๆ แล้วกรณีนี้แท็กซี่คันไหนๆ ไม่เคยมีปัญหา และหากบอกว่าบางแวก คงไม่มีใครรู้จัก และแน่นอนคือ Say no ที่จะไป

4.ป้าแกออกแนวบ่นว่า ตรงแยกพาณิชธน ไม่มีที่กลับรถ (เพราะสร้างรถไฟฟ้า) ทำให้ต้อง U-turn ไกล และเหมือนไม่อยากจะไปส่งให้ถึงที่

5.ป้าแกก็ถามมาว่า "จากโรงเรียนถึงบ้านไม่มีรถเมล์ หรือรถสองแถวนั่งกลับมารึไง" ประโยคนี้ทำให้เดือดพอสมควร คือผมมาใช้บริการคุณแทนรถเมล์ ไม่ดีหรอ?? คุณได้ตังค์นะ

6.เอาละครับ ถนนจรัญสนิทวงศ์มีไซต์งานก่อสร้างรถไฟฟ้า ทำให้ตรงถนนรถติด และป้าแกก็บอกว่า "ถ้าข้างในรถติด จะส่งลงตรงนี้นะ" อ้าว เดือดสิ มันไม่ใช่ใกล้ๆ ที่จะเดินจากปากซอย จนถึงแถวถนนราชพฤกษ์ มันร่วมๆ 3 กม. เลยนะ หากรอสองแถว อาจใช้เวลากลับบ้านมากกว่า 1 ชม. หากนั่งแท็กซี่ ก็เสียงตังค์เพิ่มอีก แต่สรุปสุดท้าย ป้าแกก็ตัดสินใจเข้าซอย เพราะในซอยรถไม่ติด

7.สุดท้ายมาจอดให้ลงก่อนแยกบางแวก ด้วยเหตุผลที่ว่า "ไม่อยากเข้าซอย ไม่มีเวลา จะไปส่งรถแถวแจ้งวัฒนะ" อ้าววว และแล้วป้าแกก็กลับรถไปทางถนนจรัญฯ (เพื่อ?) แทนที่จะไปทางถนนบรมราชชนนี

นี่คือแท็กซี่ที่สุดๆ แล้วในชีวิต นั่งในรถมีแต่อะไรเดือดๆ ผุดๆ ตลอดเวลา และเป็นอะไรที่เรื่องมากที่สุดแล้ว และเหตุผลของป้าแกแต่ละอย่าง มันดูขัดจากความเป็นจริง (หลอกตังค์พาอ้อมหรือเปล่า?) อีกอย่างนึง เรื่องที่ป้าแกเลี่ยงจะไม่เข้าซอย ป้าแกบอกว่าไม่ชินกับการขับรถแถวๆ นี้ ไม่ได้มานานแล้ว แล้วอยากรู้ว่าคุณป้ารู้ได้อย่างไรว่าซอยไหนเป็นอย่างไร??

[Story] ขายของหรือมิจฉาชีพ ??

ณ วันหนึ่ง (วันนั้นแหละ) ก็คือแบบว่ายืนรอเพื่อนอยู่แถวหน้าเซเว่นแห่งหนึ่ง ย่านฝั่งธน แล้ววันนั้นก็มีโรงเรียนแห่งหนึ่ง (เออๆ) ก็เหมือนมีงานเลี้ยง งานสังสรรค์ หรือรับปริญญา หรืออะไรสักอย่าง (เอา location ไปเลยละกัน 13.743793,100.481385) เออ พอมาไง ก็เห็นป้าสัก 2-3 คน ตอนแรกก็เห็นเดินแจกดอกไม้ให้กับคนที่เดินไปมา ตอนแรกก็เห็นแจกให้กับหญิงวัยกลางคนคนนึง ก็เห็นแล้วนึกว่าแบบเป็นเพื่อนกัน คงมางานอะไรสักอย่างนี่ล่ะ ก็เลยให้ดอกไม้ติดที่เสื้อ ยืนรอไปสักพัก... ก็เริ่มเห็นอะไรบางอย่างผิดปกติ นั่นก็คือ ป้า 2-3 คนนั่นล่ะ เหมือนหลอกขายดอกไม้ ด้วยการติดดอกไม้ให้ และขอตังค์ 20 บาท (อ๋อ เคสแบบนี้นี่เอง เคยเห็นอยู่) ส่วนตัวคิดว่า ดอกไม้นั่นอ่ะ ราคาไม่เกิน 10 บาทหรอก พอนักเรียนเดินมาก็ติดให้ แล้วก็ยืนกันไม่ให้ไป พร้อมกับแบมือขอตังค์ 20 บาท ที่แน่ๆคือ สักประมาณ 80% ยอมจ่ายตังค์ 20 บาทให้ป้าแก ส่วนอีกประมาณ 5% ดึงออกแล้วส่งคืน (ทำไมไม่โยนไปเลยว่ะ) // น่าเกลียดน่ะ .. ส่วนอีกสัก 15% ก็เดินหนี... ที่น่าเกลียดไปกว่านั้นคือ คนที่ลงแท็กซี่มา ดักรอเลย พอลุกออกมาก็... เรียบร้อย ผ่านไปสัก 15 นาที มีตำรวจขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมา... ก็เลยกวาดตามองป้าทั้งสาม ปรากฎว่า หายหัวไปหมด ปรากฎว่าไปยืนแอบอยู่แถวๆ ใต้สะพานลอย แล้วทำเป็นคนปกติ (เอิ่ม) พอตำรวจผ่านไป... ป้าก็กลับมา (เห้อ สังคมไทย)

ก็ไม่ได้จะอะไรหรอกนะ แค่มาเล่าให้ฟัง ขายของน่ะ ขายดีดีก็ได้ ไม่ใช่มาบังคับขายแบบนี้ มันดูน่าเกลียดนะครับป้านะ แล้วไอดอกไม้เนี่ย ติดเพื่ออะไร... มันไม่ได้สำคัญหรอก เค้าไม่อยากซื้อก็ไปบังคับเค้า มันดูไม่ค่อยสุจริตสักเท่าไหร่นะ = =

iOS 7 : เค้าหากันว่าป๋มก็อป

WWDC ผ่านไปแล้ว ปีนี้ Apple ได้คลอด iOS 7 ออกมา รองรับ iPhone 4, iPhone 4S, iPhone 5, iPod touch 16/32/64GB, iPad 2, iPad w/Retina Display และ iPad mini โดยรูปแบบ UI หรืออะไรต่างๆ ช่างคล้ายกับรอม MIUI บนแอนดรอยด์เหลือเกิน ... เรามาเปรียบเทียบกันว่า อะไรที่คล้ายกันบ้าง...

  โลโก้แอปพลิเคชัน

     

ใครจะเชื่อล่ะว่า iOS 7 จะพลิกโฉมเปลี่ยนอะไรใหม่หมด (แต่ Everything has changed นะ) และโลโก้ที่น่ารักๆ เหล่านี้ จะอยู่กับทุกๆคน ไปอีกนานแสนนานแน่นอน ว่ากันด้วยเรื่องโลโก้ มันดันไปคล้ายกับรอม MIUI ซะได้ ทั้งเรื่องแสงและเงา รวมถึงโลโก้เรียบๆเนี่ย จะว่าไป... MIUI เป็นตัวแรกๆที่ใช้ฟอนต์สไตล์ Helvetica Neue แบบ Light ทำให้ดู Unique สวยงามไปอีกแบบ แต่จะว่าไป iOS 7 ก็มาเน้นความบางเหมือนกันซะนี่ ไม่ต้องอะไร ย้อนกลับไปดู MIUI ก็เหมือนว่าจะเคยทำอะไรเหมือน iOS หลายๆอย่าง ทั้งหน้าโทรศัพท์เอย ตั้งค่าเอย ...

[pic src: CNET, MIUI]

  Recent Apps

 

iOS 7 มี Recent Apps แบบใหม่ เอ๊ะซวยจริงๆ เหมือนอีกแล้ว เหมือนกับอะไรล่ะ มันดันไปเหมือนกับ Sense 4/4+/4.1 ของ HTC และ Windows Phone 8 ... อ้าววววว หนำซ้ำยังสไลด์ขึ้นเพื่อปิดแอปอีกด้วย...

[pic src: apple, HTCsource]

  Control Center

      

หืมมมมมม รูปแบบ Toggle แบบนี้ มีปรับแสงจอด้วย อ้าวนี่มัน Samsung!!!! ความคล้ายก็.. เหมือนอยู่นะ แต่คือ มันเป็นแบบสไตล์ของ iOS 7 บวกกับ UI เก่าๆ บน iOS 6 ทำให้ดูมีความเป็นแอปเปิลมากขึ้น (รูปซ้ายเหมือนติดฟิล์มกระจกเลยเนอะ)

[pic src: apple, AndroidCentral]

เวอร์ชันใหม่ดีกว่าเสมอ (คหสต.) ใครที่อยากใช้ฟีเจอร์ใหม่ๆ (ใครจะไม่อยากใช้ล่ะ) ถ้าไม่ชอบก็ทนๆใช้ไปเถอะ เดี๋ยวก็ชินและชอบเอง ส่วนใครก็อปใคร เอิร์ธไม่รู้หรอก 555 แค่เห็นว่ามันคล้ายๆก็เอามาเปรียบเทียบเท่านั้นเอง นะ :P

ถึงเวลา... ลาจาก "แสงและเงา" ...

จริงๆ ก็อยากเปิดบล็อกใหม่ด้วยเรื่องเกี่ยวกับทวิตเตอร์ที่ตั้งใจจะเขียน แต่ก็เหมือนจะเป็นมุมมองส่วนตัวมากกว่า เลยขอไม่ดีกว่านะ ส่วนเรื่องนี้ล่ะตั้งใจจะเขียนและเล่าให้ฟังมานานแล้ว เพียงแต่รอ iOS7 เปิดตัวในงาน WWDC เท่านั้น และเมื่อเปิดตัว ก็เป็นไปตามภาพหลุด หรือข่าวลือที่ออกมาก่อนวันเปิดตัว .... เข้าเรื่องกันดีกว่า ช่วงยุคสมัยเปลี่ยนไปตามกาลเวลา และเทคโนโลยี รวมไปถึงการออกแบบต่างๆก็เปลี่ยนไปด้วย...

Galaxy S4 - SamMobile

เริ่มกันที่ แซมมี่ หรือซัมซุง ที่เปลี่ยนจากสไตล์มีแสงมีเงา เป็นผิวเรียบๆ (สังเกตได้จากแบตเตอรี และสเตตัสบาร์) ซึ่งเป็นการอัปเดตจาก ทัชวิซ รุ่นเก่าที่รันบนแอนดรอยด์ 4.0 หรือ 2.3 มาเป็นทัชวิซรุ่นใหม่บน แอนดรอยด์ 4.1 เจลลีบีน อย่างเช่นในภาพตัวอย่างคือ Samsung Galaxy S4 โดยที่ทัชวิซที่รันบนเจลลีบีน ก็คือ ทัชวิซฉบับเนเจอร์ยูเอ็กซ์ ที่ทางซัมซุงเปิดตัวพร้อมๆกับ Samsung Galaxy S3 ในปีก่อนๆ มาต่อกันดีกว่า... 

Windows 8

ขอข้ามไปทางฝั่งคอมพิวเตอร์พีซีบ้าง มาถึงฝั่งวินโดวส์นี่ล่ะ Windows 8 แตกต่างจาก Windows 7 ค่อนข้างมาก ด้วยการลดความใส ลดแสง ลดเงา ของแถบ หรือ bar ต่างๆ ในตัวระบบ รวมไปถึง Metro UI ที่พลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ของ Windows ที่เคยมีมา และที่มากกว่านั้นคือ การเปลี่ยนโลโก้ของบริษัท Microsoft ที่ทำให้มัน ไม่มี "แสงและเงา"

Windows phone 8 - CNET

จริงๆ แล้วน่าจะเป็นการพลิกโฉมตั้งแต่ Windows Phone 7.5 แล้ว แต่ขอเอาเวอร์ชันใหม่ละกัน Windows Phone 8 กับฟีเจอร์ที่สามารถมาต่อกรกับแอนดรอยด์และไอโอเอสได้มากขึ้น ดีไซน์เหลี่ยมๆ ไม่มีโค้ง และสีแบบเรียบๆ ไม่มีแสง และเงา อีกด้วย...

HTC One with Sense 5

เอชทีซี เซนส์ (HTC Sense) ถูกปรับให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้น ด้วยการลดแสง และเงา ของแถบสเตตัสบาร์ และแบตเตอรี รวมไปถึงในเมนูต่างๆ จริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้ต่างจาก Sense 4 หรือ 4.1 หรือ 4+ เท่าไหร่หรอก เพียงแต่ทุกๆ อย่างถูกปรับให้ดูทันสมัย แสงและเงา ก็ไม่มีตามไปด้วย (เกี่ยวไหมน้า) อืมมมม

iOS 7 - CNET

และ... iOS 7 เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อคืน ในงาน WWDC ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีภาพหลุดออกมาแล้ว ก็เลยคิดไว้ละว่า ถ้าเป็นแบบนั้นจริง จะเขียนเปรียบเทียบในบทความนี้ให้ดู iOS 7 ต่างจาก iOS 5 และ 6 ด้วยการตัดแสง และเงาออก ให้เป็นไอคอนที่มีความเรียบง่าย เรียบๆ แต่การไล่สีของไอคอนตามฉบับ iOS ยังคงอยู่ คงไม่เปลี่ยนไปเป็น Solid color เหมือน Windows Phone เลยซะทีเดียว แต่ก็เป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ "iOS"



นี่มันไม่ใช่ค่ายเดียว หรือยี่ห้อเดียว ที่เปลี่ยนมาเป็นโลโก้แบบไร้แสง ไร้เงา แบบ Flatๆ ที่จะดูเรียบง่าย สวยงาม (ว่าไปตามนั้นล่ะ) บางคนก็บอกว่าชอบ และบางคนก็บอกว่าไม่ชอบ แต่ส่วนตัวคือ ของใหม่มายังไงก็ใช้ไปเหอะ มันย่อมดีกว่าเสมอ (มั้งนะ :P)